ตอนที่ 1 สายสกุลทั้งสี่

เห็นคนดังๆ เขาทำกันครับ…
ผมเองไม่ใช่คนดัง…แต่ก็อยากทำครับ
…นั่นก็คือ…
เล่าเรื่องตัวเอง…
อยากเขียนเก็บไว้…เผื่อว่าวันหนึ่งตายไป…จะได้มีไว้ลงหนังสืองานศพตัวเอง…

แต่บอกก่อนนะครับว่า…เรื่องทั้งหมดที่เล่า…
“ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่ทั้งหมดที่เล่าเป็นเรื่องจริง”
(อาจจะใส่ความคิดส่วนตัวบ้าง…ก็คงไม่ว่ากันนะครับ)

ฟังกันก่อน…

ผม…นายอั๋น…
เป็นลูกคนเล็ก…ลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจตามตำราบอกไว้เปี๊ยบเลยครับ
มีพี่ชาย ๑ คนครับ…
มีเชื้อชาติ…อุบลราชธานี (ดูนามสกุลได้)
ถือสัญชาติ…สระบรี (ดูหมายเลขประจัวตัวประชาชน 3-1911-xxxxx-xx-x)
ปัจจุบันได้วีซ่าถาวรให้พำนักและทำงานที่…สุรินทร์

เรื่องเล่าก่อนผมเกิด…

อย่างที่บอกไงครับว่าผมมีเชื้อชาติอุบลราชธานี…
ไม่ใช่เฉพาะพ่อเท่านั้นครับ…จริงๆ แล้วทั้งโคตรเลยก็ว่าได้
พื้นเพของปู่ย่าตายายอยู่ที่บ้านแดงหม้อ… ตำบลแดงหม้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
โคตรทางคุณปู่ตายายนั้นไม่ทราบ…
แต่โคตรทางคุณย่า…ซึ่งคุณพ่อเล่าให้ฟัง และได้พบคุณทวด (พ่อแม่ของย่า)
เลยทำให้ทราบประวัติทางบรรพบุรุษมากหน่อย
คุณพ่อเล่าว่า พ่อของปู่ทวดเป็นคนลาว…ชื่อท้าวชัยราช วงษ์ศิริเนตร
อพยพมาจากเวียงจันทน์…มาไกลมาก
และผมก็มีญาติพี่น้องถ้านับตั้งแต่ปู่เทียดชัยราชมากมาย ส่วนใหญ่กระจายอยู่ตามริมโขง

ปู่เทียดชัยราชแต่งงานกับสาวไทย แล้วทั้งครอบครัว ก็ลงหลักปักฐานอยู่ที่บ้านแดงหม้อ…
ปู่เทียดผมท่านนี้แหละครับเป็นต้นตระกูล “ศิริ” ณ บ้านแดงหม้อครับ
(*หมาย เหตุครับ… จริงๆ แล้วมีสกุล “วงษ์ศิริ” ด้วย เพียงแต่ที่บ้านแดงหม้อมีคนใช้แค่ครอบครัวเดียว… นอกนั้นก็อาศัยอยู่ที่อื่นๆ เช่น ในเขื่องใน นครพนม หรือว่าริมโขงครับ)
คุณทวดผมก็อยู่ในสกุลนี้…ชื่อปู่ทวดมา และย่าทวดดา…
ท่านมีคุณย่าผมเป็นลูกสาวคนโต คือคุณย่าบัวภา

คุณย่ามาพบกับคุณปู่ซึ่งเป็นคนในสกุล “สายเสมา”
ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ สายสกุลหลักของบ้านแดงหม้อ…
ซึ่งคุณพ่อบอกว่าถ้าเจอใครในสี่สายสกุลนี้
สามารถนับญาติกันได้เลยถ้าเจอ…ก็คือ

สายเสมา และเสมามิ่ง…มีต้นตระกูลเดียวกัน…(มาจากกำนันพัน)
และชมภูพื้น และภูพวก…ก็มีต้นตระกูลเดียวกัน…(มาจากท้าวชมภู)

โดยมีสายเสมา และชมภูพื้น…เป็นสายสกุลที่ใหญ่ในแต่ละสาย

(**หมาย เหตุ… ไม่ได้หมายความว่าทุกคนในสี่สกุล สืบเชื้อสายมาจากท่านทั้งสองนะครับ… แต่ทั้งสองท่านเป็นผู้ตั้งนามสกุลทั้งสี่ตั้งแต่สมัย ร.๖ ผมก็เลยถือเอาว่าท่านทั้งสองเป็นต้นสายสกุลนะครับ)

เมื่อคุณปู่คุณย่าแต่งงานกันก็มีคุณพ่อผมเป็นลูกชายคนแรก และเป็นลูกคนโต

ทางฟากคุณแม่ครับ…
ผมสืบขึ้นไปได้แค่คุณตากับคุณยาย…
ทั้งสองท่านเป็นชาวบ้านแดงหม้อเช่นกัน
แต่คุณตาทำงานรถไฟครับ
เลยเปลี่ยนที่ทำงานเรื่อยๆ จนมาอยู่ที่มวกเหล็ก สระบุรี…
และมีลูกๆ อยู่ที่นี่เอง…โดยมีคุณแม่ผมเป็นลูกคนที่ ๓ แต่เป็นลูกสาวคนโต…

ผมนี่มาจากตะกูลลูกคนโตจริงๆ

คุณพ่อคุณแม่เจอกันที่มวกเหล็กที่เองครับ…

อ้อ…ลืมบอก…คุณตาพั่วของผมก็เป็นคนในสายสกุล “สายเสมา” เช่นกัน…

อะไรหรือครับ…สงสัยอะไรครับ…

ใช่ครับ…คุณพ่อและคุณแม่ผมนามสกุลเดียวกันครับ…
แน่นอนคุณแม่ไม่ต้องเปลี่ยนนามสกุลตอนแต่งงาน…

สายสกุล “ศิริ” นั้น สืบสายมาจาก ท้าวชัยราช วงษ์ศิริเนตร
ซึ่งเป็นคนลาว
จะมีอีกนามสกุลนึงที่เป็นเครือญาติกันก็คือ “วงศ์ศิริ”
คุ้นๆ หรือเปล่าครับ…ครับใช่…ปริศนา วงศ์ศิริ ก็อยู่ในสายสกุลนี้

ส่วนวงษ์ศิริ ณ บ้านแดงหม้อมีคนใช้แค่ครอบครัวเดียว คือ คุณปู่บุญมา ซึ่งเป็นน้องของคุณย่าครับ

ในสมัยรัชกาลที่ ๖ พระองค์ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุล
ให้คนไทยมีนามสกุลใช้ทุกคน
กำนันพัน… (ยังไม่สืบโดยละเอียด ว่าท่านเป็นใคร มีความสำคัญอย่างไร)
ท่านตั้งนามสกุล ๒ นามสกุล คือ

สายเสมา และเสมามิ่ง

ส่วน ท้าวชมภู (เขียนตามนามสกุลที่ปรากฏในปัจจุบัน) ซึ่งคุณพ่อบอกว่าท่านเป็นผู้มีอิทธิพลของหมู่บ้าน ท่านตั้งนามสกุล ๒ นามสกุลเช่นกัน (สงสัยไม่ยอมกัน) คือ

ชมภูพื้น และภูพวก

โดยสายเสมา และชมภูพื้นนั้น ในปัจจุบันมีสมาชิกอยู่มากมาย กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ส่วนเสมามิ่ง และภูพวกนั้น มีไม่เยอะเท่า (อันนี้คุณพ่อบอกมา… เท็จจริงประการใดเจ้าของนามสกุลบอกด้วย)